บทบาทครูในการสื่อสารกับเด็กปฐมวัย

                   เพราะทุกคำพูดของครูมีความหมาย” เวลาเราเป็นเด็ก เสียงจากครูมีผลมากๆ ความหวังดีจากครูผ่านการชวยคุย-ชม ถ้ามีวิธีการสื่อสารที่ดี ส่งไปถึงเด็ก ครูก็สามารถสัมผัสใจเด็กๆ ได้มากขึ้นนะ

                   บทบาทของครูในการสื่อสารกับเด็กปฐมวัยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเด็กปฐมวัยอยู่ในช่วงวัยที่พัฒนาการทางสมองและทางสังคมกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การสื่อสารที่เหมาะสมช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้การสื่อสารที่ดียังสร้างพื้นที่ในการสนทนาที่อบอุ่นปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นในความสามารถของเด็กปฐมวัยได้อีกด้วย

                  วิธีในการสื่อสารกับเด็กปฐมวัยอย่างมีประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้

                  1.  การใช้ภาษาที่เหมาะสม  ครูควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และตรงประเด็นเมื่อสื่อสารกับเด็กปฐมวัย ใช้คำพูดที่เหมาะสมกับระดับความเข้าใจของเด็ก พูดไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป รวมถึงการใช้วิธีการสื่อสารที่ตรงกับระดับความเข้าใจของเด็ก ตัวอย่างเช่น ใช้ภาษาที่ง่ายเข้าใจและใช้สื่อประกอบ อาทิ รูปภาพ ตัวอักษรที่เด็กสามารถเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้เด็กเกิดความเข้าใจและสนใจในเนื้อหา

                  2.  การรับฟังและสร้างความเข้าใจ  ครูควรให้ความสำคัญกับการฟังและเข้าใจสิ่งที่เด็กต้องการสื่อสาร รวมถึงต้องใส่ใจในความรู้สึกและความต้องการของเด็กด้วย โดยการตอบสนองต่อความต้องการ คำถาม หรือข้อสงสัยของเด็ก นอกจากนี้ครูควรเป็นผู้ที่ให้ความรู้สึกให้เด็กรู้สึกอุ่นใจ ปลอบใจและเข้าใจถึงความคิดเห็นและความรู้สึกของเด็ก

                  3.  ใช้การสื่อสารแบบร่วมมือ ครูควรสร้างโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในกระบวนการสื่อสาร โดยการเปิดโอกาสให้เด็กพูดคุย แสดงความคิดเห็น และตอบสนองต่อการสื่อสารของครู นอกจากนี้ครูยังควรสนับสนุนและสอดแทรกเทคนิคการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางที่ดึงดูดความสนใจของเด็กปฐมวัย การใช้ภาษาสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจและสื่อสารได้ดีขึ้น

                  4.   ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม  ครูควรให้คำแนะนำในกรณีที่เด็กไม่เข้าใจหรือเด็กมีความคิดเห็นที่ผิดพลาด เพื่อช่วยเด็กในการแก้ไข สร้างกรอบความคิด หรือชี้นำให้เด็กได้รับความเข้าใจและทำตามคำแนะนำได้อย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเข้าใจในการพึ่งพาตนเองและเพื่อความปลอดภัย

                   5.   ให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือ  ครูควรเป็นผู้ให้กำลังใจ ให้แรงเสริม คำชมเชยต่างๆ และสนับสนุนในกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก เช่น การยกย่องความคิดสร้างสรรค์ การให้กำลังใจในกรณีที่เด็กพยายามและพัฒนาทักษะใหม่ นอกจากนี้ครูยังควรสร้างการเรียนรู้ที่น่าสนใจ มีสื่อที่น่าสนใจและตอบสนองความสนใจของเด็ก รวมถึงให้คำช่วยเหลือเมื่อเด็กพบปัญหาหรือความยากลำบากในการทำกิจกรรม

                   6.   การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ครูควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสื่อสารและการเรียนรู้ของเด็ก โดยครูควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ที่เอื้อต่อการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ทั้งกลุ่มเล็ก และกลุ่มใหญ่แบบเป็นมิตรและสร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะสังคมและความคิดสร้างสรรค์ได้

                   การสื่อสารกับเด็กปฐมวัยต้องดำเนินไปพร้อมๆ กับการพัฒนาของเด็ก ครูควรทำความเข้าใจถึงลักษณะการพัฒนาต่างๆ ของเด็กปฐมวัยเพื่อให้สามารถเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของเด็กได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นเมื่อพูดกับเด็กปฐมวัย ควรระมัดระวังในการใช้คำพูดเพื่อไม่ให้กระทบถึงพัฒนาการและอารมณ์ของเด็ก

                   ตัวอย่างของคำพูดที่ไม่ควรพูดกับเด็กปฐมวัย

                   1.  คำหยาบคายหรือคำสแลง  ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำหยาบคายหรือคำสแลงในการพูดกับเด็ก ปฐมวัยเพราะอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อพัฒนาการทางภาษาและพฤติกรรมของเด็ก

                   2.   คำดูหมิ่นเหยียดหยาม  ควรเลี่ยงการใช้คำพูดที่ดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเด็ก เช่น การเรียกชื่อที่เสียหาย    การกล่าวถึงความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องของเด็ก หรือการล้อเลียนเด็กปฐมวัย ซึ่งอาจทำให้เด็กรู้สึกท้อแท้และเสียหายต่อความเชื่อมั่นในตนเอง

                    3.   เรื่องที่ซับซ้อนหรือเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่ไม่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องที่ซับซ้อนหรือเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ปฐมวัยยังไม่มีความคิดสร้างสรรค์เพียงพอที่จะเข้าใจหรือจัดการกับเรื่องราวที่ซับซ้อนได้

                   4.    คำพูดที่เกี่ยวกับเรื่องทางเพศหรือสังคม  ควรหลีกเลี่ยงการพูดเกี่ยวกับเรื่องทางเพศหรือสังคมที่เหลือเชื่อเพียงพอสำหรับเด็ก ปฐมวัยยังไม่มีความเข้าใจทางเพศและสังคมอย่างเพียงพอที่จะเข้าใจคำพูดเชิงเชื้อชาติหรือคำพูดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้

                   ดังนั้นในการพูดกับเด็กปฐมวัย ควรใช้คำพูดที่เป็นมิตร อ่อนโยน และสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและทักษะสังคมของเด็กปฐมวัย ดังนั้น เราสามารถใช้คำพูดต่อไปนี้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้ เช่น

                   การชมว่า “ตั้งใจระบายสีมากเลย” อาจดีกว่า “ระบายสีเก่งมากเลย” แสดงถึงการที่ครูใส่ใจมองเห็นที่ “ความพยายาม/ความตั้งใจ”

                   การชมว่า “เรื่องที่หนูพูดน่าสนใจมาก ถ้าพูดดังกว่านี้จะดีมากเลย”จะทำให้ครูสร้างกำลังใจ ความกล้าแสดงออก สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง กระตุ้นการพัฒนาศักยภาพนำไปสู่การเห็นคุณค่าในตนเอง (Self esteem) ตามความสามารถและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนได้

                  ดังนั้นการชมจึงควรมีประเด็นที่ครูมองเห็นและ “เลือกจุดชมอย่างตั้งใจ”

                  การถามว่า “ทำไมถึงเลือกวาดรูปนี้” “ทำไมถึงสนใจทำเรื่องนี้”, “ทำไมเลือกใช้คำนี้” ซึ่งเป็นการถามอย่างมีเป้าหมาย และช่วยกระตุ้นความสงสัยอยากหาคำตอบและประเมินสิ่งที่ตัวเองทำด้วย 

                  ดังนั้นการเลือกใช้คำถามอาจเริ่มจาก “คำถามปลายเปิด” ในเรื่องเฉพาะที่เด็กคนนั้นสนใจ จะทำให้เด็กๆ รู้สึกว่า ครูพร้อมเปิดรับ ไม่ตัดสิน เด็กๆ จะเปิดใจเข้าหาครูมากขึ้น หรือถามเรื่องที่เฉพาะเกี่ยวกับเด็กแต่ละคนจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกถึงความใส่ใจที่ครูมีใน“ตัวตนที่แตกต่างของเด็กแต่ละคน”

การอ้างอิง

insKru. 2021.  เพราะทุกคำพูดของครูมีความหมาย. (Online).  https://inskru.com/idea/- Mb5qb6_ 

         EUNkdWngvv90.

Mueller, C. M., & Dweck, C. S. 1998. Praise for intelligence can undermine children’s           

          motivation and performance. Journal of Personality and Social Psychology, 75(1),

          33–52.