ดนตรีเฮฟวี่เมทัลกับอาชญากรรม

ดนตรีเฮฟวี่เมทัลกับอาชญากรรม

Heavy Metal Music and Crime

ภาคภูมิ เตี๋ยวงษ์สุวรรณ์

Phakphoom Tiavongsuvan

 

Abstract

          Heavy metal music is considered as phenomenon in music industry from 70’s until it has become subgenre of mainstream music since 2000. It has been 50 years of evolution in heavy metal music that expanded a lot of music genres in category of extreme metal as heavier sound such as speed metal, thrash metal, death metal and black metal. Some people may understand it as some with form of violence in term of lyrics, performances and ideology. For example, Mayhem and Burzum, Norwegian black metal bands that produced their songs based on Odinism, anti- Christianity, murder and political violence ideology and inspiring their audiences to involve and to commit crime since 80s. 

          This article shows the cases of crime those were inspired by heavy metal songs since 80s. It begins with a discussion on a research to show practical understanding of how people receive a message from heavy metal music and how they react to their society.   

 

Keywords: Heavy Metal Music, Crime

 

บทคัดย่อ

          ดนตรีเฮฟวี่เมทัลถือเป็นปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมดนตรีในทศวรรษที่ 70 จนถึงช่วงที่กลายมาเป็นแนวย่อยในดนตรีกระแสหลักตั้งแต่ปี ค.ศ 2000 นับเป็น 50 ปีของพัฒนาการดนตรีเฮฟวี่เมทัลที่ได้กระจายแนวดนตรีมากมายในหมวดของ เอ็กซ์ตรีมเมทัล เป็นนิยามของซาวด์ที่หนักขึ้น ได้แก่ แนวสปีดเมทัล, แทรชเมทัล, เดธเมทัลและแบล็คเมทัล ผู้คนอาจเข้าใจมันในรูปแบบของความรุนแรงในแง่ของเนื้อเพลง การแสดงและอุดมการณ์ ตัวอย่างเช่น วงเมย์เฮมและเบอร์ซัม วงดนตรีแบล็คเมทัลจากประเทศนอร์เวย์ที่ได้ผลิตผลงานเพลงด้วยแนวคิดลัทธิเทพเจ้าไวกิ้งโบราณ การต่อต้านศาสนาคริสต์ การฆาตกรรมและแนวคิดที่มีความรุนแรงทางการเมือง และได้สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนเพลงไปเกี่ยวข้องและก่อเหตุฆาตกรรมตั้งแต่ทศวรรษที่ 80

          บทความนี้แสดงให้เห็นถึงคดีฆาตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีเฮฟวี่เมทัลตั้งแต่ทศวรรษที่ 80 เริ่มจากการอภิปรายผลงานวิจัยในเชิงความเข้าใจที่แท้จริงของในแง่ที่ผู้คนได้รับสาห์นจากดนตรีเฮฟวี่เมทัลและการแสดงออกต่อสังคมของพวกเขา

 

คำสำคัญ: ดนตรีเฮฟวี่เมทัล, อาชญากรรม

 

บทนำ

          ว่าด้วยเรื่ององค์ประกอบของดนตรีเฮฟวี่เมทัลประกอบไปด้วย ริฟกีต้าร์เสียงแตก Distortion หนักหน่วง ท่อนโซโล่ที่เร็วและคมบาดใจผู้ฟัง ผนวกกับกลองที่หนักแน่น และรวดเร็วหรือบางทีหนักหน่วง เบสย่านแหลม กลาง ทุ้มแล้วแต่รสนิยมของผู้เล่นและภาพรวมของวงดนตรี และอันดับสุดท้ายคือเสียงร้องที่แสดงถึงความเกรี้ยวกราดในรูปแบบเสียงกรี๊ดหรือคำราม ทำให้คนทั่วไปล้วนคิดถึงแต่ความรุนแรงจากดนตรีประเภทนี้และมักจะโทษดนตรีเฮฟวี่เมทัลว่าเป็นบ่อเกิดแห่งความรุนแรงไม่รูปใดก็รูปหนึ่งไปโดยปริยาย ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งหมดเพราะดนตรีเฮฟวี่เมทัลประกอบไปด้วยแนวทางที่หลากหลายทางด้านการนำเสนอ

ในขณะที่แฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลให้ความสำคัญของการปลดปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงเพลง จากผลสำรวจของงานวิจัยหัวข้อ Violent Lyrics in Heavy Metal Music Can Increase Aggression in Males (2011) จาก สำนักข่าว North America ด้านจิตวิทยา ได้ระบุว่าไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าดนตรีเฮฟวี่เมทัลมีผลกับอารมณ์ของผู้ฟังได้อย่างแน่ชัด เมื่อคนฟังชอบที่จะฟัง การแสดงออกในบางครั้งและการชี้พฤติกรรมก็ไม่สามารถถูกชี้วัดได้แน่นอน เพราะมีหลายกรณีและจุดประสงค์ร่วมอยู่มากเกินไป ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยส่วนใหญ่ เพราะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ที่สะสมในแต่ละบุคคล ล้วนไม่เหมือนกันตามแบบฉบับทฤษฏีจิตวิเคราะห์ของ Sigmund Fraud ที่ได้นำเสนอโครงสร้างของจิตที่แบ่งออกเป็น 3 แบบได้แก่ แหล่งรวมของแรงกระตุ้น, อัตตา และ สติสัปชัญญะ ซึ่งสามสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กันในเชิงที่สติที่ได้รับการฝึกฝนอบรมรู้ผิดชอบชั่วดีจะควบคุมไม่ให้เกิดแรงกระตุ้นและอัตตา ที่สามารถนำไปสู่การแสดงออกแบบที่ผิด ตัวอย่างเช่น บุคคลจะกระทำผิดก็ต่อเมื่อไม่สามารถทนแรงกระตุ้นได้ และในส่วนของอัตตาที่นำไปสู่ความต้องการที่สูงมากผนวกเข้ากับสติไม่ได้ฝึกให้รู้จักผิดชอบชั่วดีและการยับยั้งชั่งใจ จึงนำไปสู่การก่อเหตุร้ายได้ ในแง่ที่กล่าวมาเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลค่อนข้างชัดเจน ยังไม่นับรวมบุคคลที่จิตใจผิดปกติไม่ว่าจะด้วยพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อมตามทฏษฏีวิเคราะห์อาชญากรของ Alexander และ Staub นักจิตวิเคราะห์ บุคคลที่ไม่มีปํญหาทางจิตส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกไม่สบายใจเมื่อกระทำผิดและมักมีแรงจูงใจให้ก่อเหตุ  ขณะที่คนที่มีปัญหาทางจิตสามารถก่อเหตุได้โดยไม่ต้องมีแรงจูงใจก็ได้ แต่ในส่วนของการรับรู้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ารู้สึกอย่างไรหลังการกระทำผิดเพราะค่อนข้างหลากหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นหรือก่อเหตุโดยไม่มีเหตุผล (Maguire, 2007) ในขณะที่ผลสำรวจของคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ชี้ให้เห็นถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วและค่าความเครียดที่สูงของแฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลขณะที่ทำการฟังเพลงเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นให้พักอยู่ในความเงียบสงบเป็นเวลา 10 นาทีเช่นเดียวกัน ปรากฏว่าอัตราค่าความเครียดและการเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ดี  ลดวูบจากค่าที่สูงในแง่ลบกลายเป็นผลเชิงบวก จากผลชี้วัด จึงสามารถตีความได้ว่า ดนตรีเฮฟวี่เมทัลไม่ได้ทำให้ผู้ฟังมีความโกรธเพิ่มขึ้นแต่เป็นการผ่อนคลายที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกไปกับเสียงเพลง ผลการทดลองจัดอยู่ในเกณฑ์ดีที่สามารถระบุได้ว่า การฟังดนตรีเฮฟวี่เมทัลสามารถเป็นทางออกในการระบายอารมณ์ที่มีประสิทธิภาพและทำให้ผู้ฟังมีสุขภาพที่ดีได้

 เนื้อเพลงในบทเพลงเฮฟวี่เมทัลสามารถถ่ายทอดไปในทิศทางที่เป็นการรณรงค์อะไรบางอย่างได้เสมอ ตัวอย่างเช่น เพลง War Pigs ของวง Black Sabbath ที่ต่อต้านการทำสงครามในช่วงทศวรรษที่ 70 ถือเป็นบทเพลงเสียดสีความอยุติธรรมในสังคม เมื่อเกิดสงคราม คนจนเท่านั้นที่จะถูกไปส่งไปรบก่อนเป็นลำดับแรก ในขณะที่ชนชั้นนำสร้างสงครามด้วยความสนุกใช้ประชาชนเป็นเหมือนหมากในกระดานโดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่เกินบรรยาย สุดท้ายการอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ยกโทษในบาปที่ก่อไม่เป็นผล แต่ซาตานหัวเราะเยาะพอใจในความเลวทรามของมนุษย์ที่หลงรักในสงคราม ความจริงแล้วบทเพลงนี้แฝงไปด้วยการรณรงค์ให้เกิดสันติภาพต่อมวลมนุษยชาติ

ในขณะที่ดนตรีเฮฟวี่เมทัลแตกแขนงออกไปในส่วนของแนวย่อยทั้งหลายด้วยวิวัฒนาการของการสร้างสรรค์ทางดนตรีและเนื้อหาที่ถูกใช้เป็นตัวจำแนกประเภทอย่างแนวสปีดเมทัล, แทรชเมทัล, เดธเมทัลและแบล็คเมทัล แทรชเมทัลเป็นการปรับดนตรีเฮฟวี่เมทัลให้หนักแน่นขึ้นด้วยซาวกีต้าร์กับเบส ผนวกกับกลองที่มีจังหวะหนักแน่นและรวดเร็วเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีเฮฟวี่เมทัลและสปีดเมทัล มีเนื้อหาออกไปทางเสียดสี วิพากษ์วิจารณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมาอย่างวง Metallica, Sepulture, Megadeth และ Slayer ในขณะที่ เดธเมทัลมีลักษณะดนตรีคล้ายแทรชเมทัลแต่รุนแรงกว่าในสัดส่วนของดนตรี บางครั้งมีความเร็วมากกว่า และบ่อยครั้งมีการนำแนวดนตรีโปรเกสสิฟมาเจือปนทำให้มีสัดส่วนที่ซับซ้อนขึ้น เดธเมทัลส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่พูดถึงเรื่องฆาตกรรมเป็นหลัก บางครั้งมาในรูปแบบของการบูชาซาตานอย่างวง Death และ Cannibal Corpse และอันดับสุดท้ายคือ แบล็คเมทัล เป็นดนตรีที่มีความตรงไปตรงมาคล้ายกับแทรชเมทัลในแง่ของความหนักหน่วง แต่บ่อยครั้งสามารถพบเห็นในจังหวะที่ช้าแต่หนักหน่วง เนื้อหาพูดถึงการหมิ่นศาสนาคริสต์เป็นหลักและการบูชาเทพไวกิ้งโบราณและซาตานเป็นบางครั้งอย่างวง Mayhem, Burzum, The Immortal และ Dimmu Borgir    

โดยแนวคิดและลักษณะของแนวดนตรีดังกล่าวอาจมีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนเพลงก่อเหตุอันไม่คาดคิดอยู่บ้าง บทความนี้จะทำการรวบรวมคดีอาชญากรรมที่ขึ้นชื่อว่ามีดนตรีเฮฟวี่เมทัลและแนวย่อยที่ได้กล่าวมาเป็นบ่อเกิดแห่งความยั่วยุ สั่งสมแรงบันดาลใจด้านมืดและได้ระเบิดออกมาเป็นเหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม แม้ในบางคดีเป็นเพียงแค่การสมมุติฐานว่าดนตรีเฮฟวี่เมทัลคือต้นเหตุของปัญหา แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงจุดประสงค์ของการนำเสนอผลงานของศิลปิน

 

 

วง Dimmu Borgir

ที่มา https://www.wearethepit.com/2020/07/mandatory-metal-5-essential-dimmu-borgir-songs/

 

เนื้อหา

          ดนตรีเฮฟวี่เมทัลในยุคเริ่มแรกได้รับอิทธิพลจากดนตรีฮาร์ดร็อคในทศวรรษที่ 70 มีการพัฒนาความหนักหน่วงและดุดันทางด้านดนตรีและเนื้อหาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบองค์ประกอบทางดนตรีระหว่าง Led Zeppelin ที่เพลงส่วนใหญ่มีเนื้อหาพูดถึงชีวิต สังคม ตำนาน เรื่องเล่าและการเมือง กับวง Black Sabbath และ Judas Priest ที่เพลงส่วนใหญ่มีเนื้อหาพูดถึงชีวิต สังคม การเมืองในแง่ที่เข้มข้นขึ้น ก็จะเห็นส่วนประกอบของการนำเสนอที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร ตัวอย่างเช่น เพลง Immigrant Song ของวง Led Zeppelin ที่มีเนื้อหากล่าวถึงตำนานการเดินทางของนักรบไวกิ้ง ด้วยดนตรีริฟกีต้าร์และจังหวะที่ให้อารมณ์สนุกสนาน เสียงนักร้องที่เปล่งเสียงด้วยพลังราวกับสตรีกรี๊ดเสียงแหลมดังเวลามีความสุข ในขณะที่เพลง Breaking The Law ของวง Judas Priest พูดถึงการก่ออาชญากรรม แหกกฏหมาย ด้วยดนตรีริฟกีต้าร์และทำนองขับร้องที่ค่อนข้างดุดัน นับเป็นปรากฏการณ์เขย่าจารีตในสังคมอยู่ไม่มากก็น้อยสำหรับวัยรุ่นและผู้ที่มีใจคึกคะนอง และเป็นการสร้างบรรทัดฐานความบันเทิงให้แก่สังคมในรูปแบบที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

 

Rob Halford (Judas Priest) และ Ozzy Osbourne (Black Sabbath)

ที่มา https://earofnewt.com/2015/10/24/defender-of-the-faith-rob-halford-only-sees-the-good-in-ozzy-osbournes-sabbath-role/

 

          คดีอาชญากรรมรูปแบบแรกที่จะกล่าวถึงในบทความนี้เป็นคดีที่จัดอยู่ในประเภท อัตวินิบาตกรรม คือ คดีการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนของวัยรุ่นอเมริกัน 2 คน ได้แก่ James Vance และ Ray Belknap นำไปสู่การฟ้องร้องวง Judas Priest โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เพราะ Ray Belknap ได้ทิ้งจดหมายที่มีข้อความพูดถึง การเมาเหล้ากับดนตรีเฮฟวี่เมทัลอย่างวง Judas Priest ทำให้พวกเขาเป็นที่หลงใหล ทำให้ครอบครัวของพวกเขานำข้อความในบทเพลงของวง Judas Priest ท่อนนึงจากเพลง Better By You, Better Than Me มีคำว่า Do It อยู่ในเพลง ถือเป็นการชี้นำให้เหนี่ยวไกปลิดชีพตนเอง ในที่สุดหลังจากไต่สวนมาทั้งหมดเป็นเวลา 3 อาทิตย์ ไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอที่จะเอาผิดวง Judas Priest และในด้านของ Rob Halford นักร้องนำของวง Judas Priest ได้กล่าวว่า “เขาไม่เคยบอกให้แฟนเพลงฆ่าตัวตาย มีแต่บอกให้อุดหนุนผลงานของเขาเท่านั้น” กรณีคล้ายกันนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับวง Ozzy Osbourne มีวัยรุ่นอเมริกันหนึ่งคนยิงตัวตายในขณะที่ฟังเพลง Suicide Solution และมีคนพบศพของเขาพร้อมกับเทปของ Ozzy Osbourne วางอยู่ข้างศพ พ่อของเขาให้การว่าลูกชายของเขาเดินมาหาเขาก่อนที่จะฆ่าตัวตายและได้บอกว่า Ozzy มีทางออกให้ ทางด้านนักร้องนำของวงออกมาให้การตอบโต้ได้ชัดเจนว่า “จะมีศิลปินที่ไหนอยากให้แฟนเพลงของเขาเสียชีวิต” (Fuqua, 2020)   

          คดีอาชญากรรมรูปแบบต่อไปเป็นคดีฆาตกรรมที่สุดแสนระทึกและสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับวงการดนตรีเฮฟวี่เมทัลในระดับสากล คือคดีฆาตกรรม Dimebag Darrrell ชื่อจริง Darrell Lance Abbott มือกีต้าร์ที่โด่งดังของวง Pantera เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวิวัฒนาการดนตรีเฮฟวี่เมทัลคนหนึ่ง ด้วยทักษะการเรียบเรียงดนตรีผนวกกับเทคนิคกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์ หนักแน่น โดดเด่น มีผลงานเพลงที่เป็นที่นิยมในแวดวงแฟนเพลงดนตรีเฮฟวี่เมทัลได้แก่ Cowboy From Hell, Walk, Cemetery Gate และ Floods

          เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ 2004 ขณะนั้น Dimebag ได้แสดงดนตรีในนามวง Damageplan หลังจากยุติบทบาทกับวง Pantera อย่างเป็นทางการ มีแฟนเพลงคนหนึ่งของเขาชื่อ Nathan Gale ได้ขึ้นมายิงเขาเสียชีวิตขณะกำลังทำการแสดงบทเพลงแรกของวง Damageplan ที่ผับชื่อ Alrosa Villa ที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดเหตุการณ์ชลมุนทำให้มีการ์ดคอนเสิร์ตหนึ่งคนกับพนักงานดูแลสถานที่จัดงานหนึ่งคน และแฟนเพลงเสียชีวิตร่วมด้วยหนึ่งคน ตามด้วยตำรวจได้เข้ามาดำเนินการวิสามัญ Nathan Gale ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้รวมถึง 5 คนด้วยกัน ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมนั้นไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ด้วยรายละเอียดเท่าที่มีนั้นสามารถโยงไปถึงการยุบวง Pantera ที่อาจทำให้ฆาตกรมีแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุ และอาจเป็นเหตุบังเอิญที่การฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับการฆาตกรรม John Lennon ที่เกิดขึ้นเมื่อ 24 ปีที่แล้ว (Wilkinson, 2004)

 

 

ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฆาตกรรมในคอนเสิร์ต Damageplan ในปี ค.ศ 2004

ที่มา https://www.ultimatemetal.com/forum/threads/five-years-ago-today.549984/

          Dimebag Darrell เสียชีวิตด้วยอายุเพียง 38 ปี ศพของเขาถูกฝังอยู่ข้างแม่ของเขาที่รัฐเท็กซัส บ้านเกิดของเขา แฟนเพลงนับพันและศิลปินเฮฟวี่เมทัลได้รวมตัวกันเข้าร่วมพิธีศพของเขา และมีการจัดทำเพลงรำลึกการจากไปของเขาอย่างบทเพลง In This River ของเพื่อนรักของเขา มือกีต้าร์ผู้มีเอกลักษณ์ดุดันเฉพาะตัวในสายดนตรีเฮฟวี่เมทัลอย่าง Zakk Wylde แสดงในนามวง Black Label Society ในขณะนั้น

 

 

Dimebag Darrell และ Zakk Wylde

ที่มา https://www.pinterest.es/pin/779685754208857503/

 

          คดีถัดไปเป็นการฆาตกรรมสังหารหมู่ในโรงเรียนระดับมัธยมแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ 1999 โดยนักเรียนมัธยมสองคนได้ใช้อาวุธปืนสังหารเพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ทั้งหมดสิบสองคน หลังจากนั้นได้ปลิดชีพตนเองตามไปเพื่อหนีความผิด ไม่มีใครทราบแรงจูงใจ จุดประสงค์ที่แท้จริงเพราะฆาตกรเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้พูดและทิ้งหลักฐานใดๆไว้ แต่กลับกลายเป็น Marlilyn Manson ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของคดีฆาตกรรมครั้งนี้เพราะงานเพลงของเขากำลังเป็นที่นิยม ด้วยงานเพลงของเขาในรูปแบบของ Industrial metal พร้อมด้วยงานเพลงและศิลปะการนำเสนอที่เต็มไปด้วยการเสียดสี แง่ลบ และโหดร้าย บางครั้งถึงขั้นวิตถารและมีความรุนแรงทางเพศร่วมอยู่ จึงไม่แปลกที่จะถูกเพ่งเล็งและยัดเยียดข้อหาโดยสื่อที่มีความคิดค่อนข้างเป็นอนุรักษ์นิยม ในทางกลับกันมีการนำเสนอข่าวอีกมุมโดย Dave Cullen นักข่าวอเมริกันว่าฆาตกรทั้งสองไม่ใช่แม้กระทั่งแฟนเพลงของ Marlilyn Manson (Fuqua, 2020)

 

 

Marlilyn Manson

ที่มา https://consequenceofsound.net/2020/02/marilyn-manson-teases-new-album-with-cryptic-instagram-post/

 

          มีอีกหนึ่งคดีอาชญากรรมที่คาดว่าเชื่อมโยงกับผลงานของ Marlilyn Manson เป็นคดีฆาตกรรมที่ Scotland โดยคู่รักวัย 14-15 ปี โดยมีการคาดการณ์จากการสอบสวนว่าฝ่ายชายเป็นฆาตกรสังหารฝ่ายหญิง โดยลักษณะศพของเหยื่อมีการทำให้มีลักษณะคล้ายกับภาพวาดของ Marlilyn Manson ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการฆาตกรรมที่มีชื่อว่า Black Dahlia ในปี ค.ศ 1947 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฆาตกรได้ซื้ออัลบั้มเพลงของ Marlilyn Manson 2 วันก่อนเกิดเหตุ จึงถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานมัดตัวฆาตกร แต่ในขณะเดียวกันมีการพบถุงยางที่ใช้แล้วในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วไม่ตรงกับดีเอ็นเอของฆาตกร และมีพยานพบเห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งในที่เกิดเหตุก่อนจะมีการพบศพเหยื่อ จึงเป็นไปได้ว่าคดีนี้อาจจะมีการจับฆาตกรผิดคนด้วยอคติที่มีต่อผลงานของ Marlilyn Manson

 

 

Marlilyn Manson และรูปวาด Black Dahlia

ที่มา http://www.nachtkabarett.com/MM.com_2002-2004/GAOG_MM.com/news/index_old2.htm

 

          คดีฆาตกรรมที่มีชื่อว่า Metal Loner เกิดขึ้นที่สหราชอาณาจักรในปี ค.ศ 2014 William Cornick นักเรียนวัย 15 ปี แฟนเพลงดนตรีเฮฟวี่เมทัล ผู้คลั่งในความรุนแรงและความตาย เขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นได้มากนัก วันหนึ่งเขาได้ทำการฆาตกรรมครูวัย 61 ปีด้วยการใช้มีดแทง เขาได้ให้การว่า ดนตรีเฮฟวี่เมทัลปลุกเร้าให้เขาก่อเหตุ เขาถูกจำคุกเป็นเวลา 20 ปีก่อนที่จะมีสิทธิได้รับทัณฑ์บนตามกฏหมายของสหราชอาณาจักร

          ฆาตกรต่อเนื่องชื่อ Richard Ramirez ได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อทั้งหมด 13 คน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงระหว่าง เดือนเมษายน ค.ศ 1984 ถึง สิงหาคม ค.ศ 1985 เขาได้ทิ้งหมวกที่มีสัญลักษณ์ของวง AC/DC ที่ตำรวจได้ใช้การสืบสาวจับกุมเขาได้ในที่สุด เขาได้ให้การในชั้นศาลว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจในการฆาตกรรมครั้งนี้จากเพลง Night Prowler ของวง AC/DC  

          คดีสุดท้ายที่ได้คัดเลือกมานี้คือ คดี Norwegian Black Metal ในทศวรรษที่ 90 เมื่อนักร้องนำวง Mayhem ที่ใช้นามในการแสดงว่า Dead ชื่อจริงของเขาคือ Per Yngve Ohlin ชาวสวีเดนผู้ได้เข้าร่วมวง Mayhem ซี่งเป็นวงแบล็คเมทัลสัญชาตินอร์เวย์ ได้ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมที่บ้านพักกลางป่าห่างจากตัวเมือง Krakstad ประเทศนอร์เวย์ ในปี ค.ศ 1991 โดยบ้านพักหลังนี้ วง Mayhem ได้เช่าไว้อาศัยอยู่ร่วมกันซ้อมดนตรีและผลิตผลงานเพลงอัลบั้มที่มีชื่อว่า De Mysteriis Dom Sathanas ที่ถูกปล่อยในปี ค.ศ 1994 หลังจากการตายของสมาชิกในวง ซึ่งเป็นผลงานที่เป็นตำนานของวง ลักษณะการตายของ Dead คือเขาได้ทำการปาดคอ กรีดข้อมือของตน ก่อนที่จะยิงตัวตายที่ศรีษะ ปลิดชีพอย่างสมบูรณ์ ร่างของเขาถูกพบภายในบ้านโดยมือกีต้าร์วง Mayhem ที่มีนามในการแสดงว่า Euronymous แต่แทนที่เขาจะโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน เขากลับไปที่สตูดิโอของเขาในตัวเมืองและนำกล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปศพของ Dead ไว้ทำเป็นหน้าปกโฆษณาอัลบั้มของวง Mayhem สมาชิกในวงและผู้คนทั่วไปที่ได้ยินเรื่องราวนี้กลับไม่พอใจในการกระทำของ Euronymous อย่างมาก เพราะเป็นการหากินกับคนตายแบบไม่ให้เกียรติ มีการสันนิษฐานว่าผลงานของวง Mayhem เป็นแรงบันดาลใจของคดีฆาตกรรมหลายคดีในช่วงเวลานั้น รวมไปถึงการเผาทำลายโบสถ์คริสต์หลายแห่งในประเทศนอร์เวย์

 ต่อมาในปี ค.ศ 1993 Euronymous ได้เข้าร่วมกับวง Burzum ที่มีหัวหน้าวงคือ Varg Vikernes ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปไม่ค่อยดีนัก มีเพียงสิ่งเดียวที่ทั้งคู่เห็นด้วยตรงกันคือแนวคิดอารยันนิยม แต่ในที่สุด Varg ก็ได้ยินข่าวลือว่า Euronymous วางแผนจะปลิดชีพเขา เขาจึงได้ลงมือก่อนด้วยการฆาตกรรม Euronymous ที่อพาร์ทเม้นด้วยการแทงทั้งหมด 23 แผล โดย Varg ได้ให้การสารภาพกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่าเขารู้สึกดีเมื่อได้ใช้มีดแทงไปที่บริเวณศรีษะของ Euronymous แล้วจ้องมองลูกตาที่หลุดออกมาจากใบหน้าของเขา ส่วนตัว Varg เป็นคนที่มีแนวคิดอารยันนิยมแบบลัทธินาซีผนวกเข้ากับศาสนาไวกิ้งโบราณที่เรียกว่า Odinism เป็นการผสมผสานที่เป็นแนวคิดอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงที่ไม่ค่อยจะลงตัวเพราะสองสิ่งเป็นสัญลักษณ์ของความล้าหลัง แปลกพิลึกและไม่ใช่แนวคิดที่ดีอย่างแน่นอนเมื่อไตร่ตรองในเชิงมนุษยธรรม การเหยียดผิว เชื้อชาติไม่ใช่เรื่องที่น่ายอมรับในสังคมที่เจริญแล้ว Varg ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานฆาตกรรมและถูกจองจำเป็นเวลา 16 ปี จากโทษทั้งหมด 21 ปี ในระหว่างที่ถูกจองจำ เขาได้เผยแพร่แนวคิด Odinism ที่รังเกียจศาสนาคริสต์อย่างเปิดเผยทำให้เขาถูกยกเป็นหนึ่งในแกนนำผู้ก่อการร้ายนอร์ดิกที่มีชื่อกลุ่มว่า “Heathen Front” โดยกลุ่มนี้ได้ทำการเผาโบสถ์คริสต์โบราณหลายแห่งในประเทศนอร์เวย์ Varg ได้ถูกปล่อยตัวในปี ค.ศ 2009 ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสกับภรรยานักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาจัดและมีส่วนในการก่อความรุนแรงต่อต้านผู้ลี้ภัยทั้งในประเทศฝรั่งเศสและนอร์เวย์ (Fuqua, 2020) ปัจจุบันวง Mayhem ยังคงออกทัวร์โดยสมาชิกดั้งเดิมและใหม่ผสมกันเพื่อสานต่อผลงานแห่งความมืดมนและหนักหน่วงให้แก่บรรดาแฟนเพลงแบล็คเมทัลต่อไป      

 

 

Dead และ Euronymous

ที่มา https://metalmofos.com/23-years-gone-an-evil-genius-lost-too-soon/

 

บทสรุป

          คดีส่วนใหญ่ที่ปรากฏว่ามีการเชื่อมโยงกับดนตรีเฮฟวี่เมทัล หาข้อสรุปที่มาที่ไปได้ค่อนข้างยากและไม่สามารถยกหลักฐานที่แน่นหนาพอที่จะชี้ชัดว่าฆาตกรได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีเฮฟวี่เมทัลยังไง แต่ในกรณีของคดีอัตวินิบาตกรรมมีความชัดเจนกว่าว่าผู้ก่อเหตุได้รับแรงบันดาลใจจากการฟังดนตรีเฮฟวี่เมทัลมากกว่ากรณีฆาตกรรมที่ได้ยกมาเป็นตัวอย่างเพราะคดีฆาตกรรมนั้น บางกรณีไม่สามารถได้สอบปากคำฆาตกรเพราะฆาตกรได้ชิงปลิดชีพตนเองหนีความผิด จึงเกิดการคาดการณ์หลากหลายแบบ ถึงขั้นไปกล่าวหานักดนตรีที่สร้างสรรค์ผลงานแนวสะเทือนขวัญว่ามีส่วนในการเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ฆาตกร และบางกรณีที่ฆาตกรได้ให้การรับสารภาพชัดเจน

ในขณะที่งานวิจัยที่ศึกษาด้านอารมณ์ของแฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลออกมาประกาศค่อนข้างชัดเจนว่า ความรุนแรงที่เกิดจากดนตรีเฮฟวี่เมทัลเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ไม่สามารถชี้ภาพรวมว่าทุกคนที่ฟังเพลงแนวนี้แล้วจะต้องมีอารมณ์ที่รุนแรง ก่อเหตุอาชญากรรมอยู่เสมอไป ทั้งยังมีการชี้ให้เห็นผ่านผลงานวิจัยว่าการฟังดนตรีเฮฟวี่เมทัลเป็นการระบายอารมณ์ที่ทำให้สุขภาพดีได้อีกด้วย  

 

รายการอ้างอิง

 

Mast, J. and McAndrew, F. (2011). Violent Lyrics in Heavy Metal Music Can Increase Aggression     in Males. North American Journal of Psychology.

Maquire, M. (2007). The Oxford Handbook of Criminology. Oxford University. 

Sharman, L.and Dingle, G. (2015). Extreme Metal Music and Anger Processing. Centre for Youth        Substance Abuse Research, University of Queensland, Birsbane, QLD, Australia.

Fuqua, L. (2020). Heavy Metal Music at the Center of Crime. Available at           https://medium.com/true-crime-addiction/heavy-metal-music-at-the-center-of-crime-        8a38b43881a6. [Accessed] 26 February 2021

Wilkinson, P. (2004). Behind the Murder of ‘Dimebag’ Darrell. Available at           https://www.rollingstone.com/feature/behind-the-murder-of-dimebag-darrell-233541/         [Acessed] 26 February 2021.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประวัติผู้เขียน

 

ชื่อ                       นายภาคภูมิ เตี๋ยวงษ์สุวรรณ์

พื้นที่อยู่อาศัย      จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

วุฒิการศึกษา      

-Merit Master of Music Performance University of Southampton UK 2013-2014.

-Bachelor of Music Entertainment from the College of Music Mahidol University Thailand 2008-2012

ประสบการณ์ทางอาชีพ 

-อาจารย์ประจำภาควิชาดนตรีตะวันตก วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ตั้งแต่ปี พ.ศ 2559- ปัจจุบัน

-ศิลปินอิสระ ตั้งแต่ 2555- ปัจจุบัน

ผลงานวิจัย              

The Improvement of Guitar Teaching Lesson Plans for Undergraduate Study in Popular Music at Bansomdej Rajabhat University 2017.

การสร้างเสริมรสนิยมและองค์ความรู้ทางดนตรีสมัยนิยมในชุมชนย่านฝั่งธนบุรี (2564), สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.

บทความวิชาการ       

Popular Music: The Way to Efficiently Improve Subject Group of Popular Music at College of Music Bansomdej Chaopraya Rajabhat University 2019.

วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา Journal of BSRU-Research and Development Institute ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2564) Vol.6 No.2 (July-December 2021), 109 – 122.    

“Assemble” in Heavy Metal. In The 2nd International Symposium on Creative Fine Arts (ISCFA) Phranakhon Si Ayutthaya Rajabhat University, February 23-24,2022.