แนวทางการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาปฐมวัย
กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการสถาน ศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2550) แก่สถานศึกษาอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 39 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ โดยจำแนกอำนาจหน้าที่ของสถานศึกษาเป็น 4 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านวิชาการ 2)ด้านงบประมาณ 3)ด้านการบริหารงานบุคคล และ 4)ด้านการบริหารทั่วไป ใช้หลักการกระจายอำนาจ การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน และหลักความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการสอน ฝ่ายสนับสนุนการสอน และบุคลากร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภายนอกอื่น ๆ ดังนั้นงานด้านวิชาการถถือเป็นงานที่สำคัญและเป็นหัวใจในการปฏิบัติในสถานศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ
1) ความหมายของการบริหารงานด้านวิชาการ ดังนี้
ผ่องศรี รัตนสถิติย์ (2535 : 10 ; อ้างถึงใน อมรชัย ตันติเมธ, 2550 : 208) ได้ให้ความหมายของการบริหารงานวิชาการ ว่าการบริหารงานวิชาการ หมายถึงการที่ผู้บริหารดำเนินงานเกี่ยวกับกิจกรรมวิชาการใน 4 ด้าน คือการบริหารหลักสูตร การจัดการเรียนการอสน การนิเทศการศึกษาและการวัดและการประเมินผลการศึกษา
กมล ภู่ประเสริฐ (2546 : 6 ) การบริหารที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของภารกิจสถานศึกษา
นฤมล เนียมหอม, กันตวรรณ มีสมสาร และราศี ทองสวัสดิ์ (2555 : (8-6) – (8-23)) ได้ให้ความหมายของ
การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาปฐมวัย ไว้ว่า การบริหารงานวิชาการ หมายถึงการดำเนินการตามกระบวนการบริหารการศึกษาที่เกี่ยวกับกิจกรรมทุกอย่างในสถานศึกษา ซึ่งทำให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียน
สรุปว่า การบริหารงานวิชาการ หมายถึงการดำเนินงานตามกระบวนการบริหารเกี่ยวกับงานวิชาการ 4 ด้าน ได้แก่การบริหารหลักสูตร การจัดการเรียนการอสน การนิเทศการศึกษาและการวัดและการประเมินผลการศึกษาซึ่งทำให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตรและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียน
2) ขอบข่ายของงานบริหารวิชาการ
กระทรวงศึกษาธิการ (2542 : 9-37) ได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติราชการสำหรับข้าราชการ เพื่อ
กำหนดแนวทางการดำเนินงานการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษา ไว้ดังมีรายละเอียด ต่อไปนี้
หลักการและแนวคิด
1) ยึดหลักให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาให้เป็นไปตามกรอบหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของชุมชนและสังคม อย่างแท้จริง โดยมีครู ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วม
2) มุ่งส่งเสริมสถานศึกษาให้จัดกระบวนการเรียนรู้ โดยถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
3) มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนและสังคมมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้
รวมทั้งเป็นเครือข่ายและแหล่งเรียนรู้
4) มุ่งจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานโดยจัดให้มีดัชนีชี้วัดคุณภาพการจัด
หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ และสามารถตรวจสอบคุณภาพการจัดการศึกษาได้ทุกช่วงชั้น ทั้งระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
5) มุ่งส่งเสริมให้มีการร่วมมือเป็นเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการ
จัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษา
3) ขอบข่ายและภารกิจงานวิชาการ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฯประกอบไปด้วย 17 งาน ดังนี้ (ราชกิจจานุเบกษา, 2550 : 29-30)
1) การพัฒนาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาสาระหลักสูตรท้องถิ่น
2) การวางแผนงานด้านวิชาการ
2) การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา
4) การพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา
5) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้
6) การวัดผล ประเมินผล และดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน
7) การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
8) การพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้
9) การนิเทศการศึกษา
10) การแนะแนว
11) การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา
12) การส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการ
13) การประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์การอื่น
14) การส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องค์การ หน่วยงานสถาน ศึกษาประกอบการ และสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา
15) การจัดทำระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษา
16) การคัดเลือกหนังสือ แบบเรียน เพื่อใช้ในสถานศึกษา
17) การพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
กมล ภู่ประเสริฐ (2544 : 9-17 ; อ้างถึงใน นฤมล เนียมหอม, กันตวรรณ มีสมสาร และราศี ทองสวัสดิ์, 2555 : (8-8) – (8-13)) กล่าวถึงขอบข่ายของการบริหารงานวิชาการ ดังต่อไปนี้
1) การบริหารหลักสูตร เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
1.1) การวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางระดับประเทศ
1.2) การกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้
1.3) การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
1.4) การจัดทำหน่วยการเรียนรู้
2) การบริหารการเรียนการสอน เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
2.1) การรวบรวม วิเคราะห์ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
2.2) การกำหนด เตรียมการและจัดหาสื่อการเรียนการสอน
2.3) การกำหนดวิธีการประเมินผลการเรียน
2.4) การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ของครูตามหลักสูตรสถานศึกษา
2.5) การควบคุมดูแลและส่งเริมให้มีการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้
2.6) การร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการเรียนการสอน
3) การบริหารการประเมินผลการเรียน เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
3.1) การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
3.2) การกำหนดวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้
3.3) การควบคุม ดูแล และส่งเสริมให้มีการประเมินผลการเรียนตามวิธีการและ
เครื่องมือที่กำหนด
3.4) การจัดทำหลักฐานการตามที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด
3.5) การนำผลการประเมินไปใช้ในการแก้ไขข้อบกพร่องของผู้เรียน
3.6) การกำหนดรูปแบบ ระยะเวลาการรายงานผลการเรียนรู้
4) การบริหารการนิเทศภายใน เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
4.1) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศภายใน
4.2) การกำหนดวิธีการและระยะเวลาในการนิเทศภายใน
4.3) การควบคุม ดูแลให้มีการนิเทศภายในอย่างสม่ำเสมอ
4.4) การร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
5) การบริหารการพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
5.1) การวิเคราะห์ปัญหาร่วมกันเกี่ยวกับความรู้ความสามารถของบุคลากร
5.2) การกำหนดช่วงเวลาของการพัฒนาบุคลากรเป็นระยะ
5.3) การควบคุมดูแลให้การดำเนินการพัฒนาบุคลากรเป็นไปตามที่กำหนด
6) การบริหารการวิจัยและพัฒนา เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
6.1) การทความเข้าใจและส่งเสริมให้มีการวิจัยในชั้นเรียน
6.2) การร่วมกันกำหนดประเด็นที่ควรพัฒนาร่วมกันในสถานศึกษา
6.3) การควบคุม ดูแล และส่งเสริมการดำเนินการวิจัยที่ได้กำหนดไว้
7) การบริหารโครงการทางวิชาการอื่น ๆ เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
7.1) การกำหนดหัวข้อเรื่องทางวิชาการที่เป็นการสนับสนุนงานหลัก
7.2) การกำหนดวิธีการดำเนินการและระยะเวลาให้เหมาะสมกับการพัฒนาผู้เรียน
7.3) การควบคุม ดูแล และส่งเสริมให้มีการดำเนินการตามที่กำหนดไว้
8) การบริหารข้อมูลและสารสนเทศทางวิชาการ เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
8.1) การกำหนดข้อมูลและสารสนเทศทางวิชาการทางการบริหารทั้งหมดที่จะต้องจัดเก็บร่วมกัน
8.2) การกำหนดเวลาในการรวบรวมข้อมูลและสารสนเทศให้เหมาะสม
8.3) การควบคุม ดูแล และส่งเสริมการจัดเก็บข้อมูลและสารสนเทศ
8.4) การนำข้อมูลและสารสนเทศไปใช้ในประกอบการดำเนินงานในหัวข้ออื่นๆ
9) การบริหารการประเมินผลงานทางวิชาการของสถานศึกษา เป็นการจัดให้มีการดำเนินงาน ดังนี้
9.1) การกำหนดหัวข้อการประเมินผลงานจากงานข้างต้น
9.2) การกำหนดวิธีการและเครื่องมือในการประเมิน
9.3) การควบคุม ดูแล และส่งเสริมให้มีการดำเนินการประเมินตามที่กำหนด
9.4) การสรุปผลและเขียนรายงานประจำปี
อมรชัย ตันติเมธ (2550 : 208) ได้กล่าวถึงขอบข่ายของงานวิชาการไว้ดังนี้
1) งานด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้
2) งานการจัดประสบการณ์
3) งานสื่อการเรียนการสอน
4) งานวัดผลและประเมินผล
5) งานห้องสมุด
6) งานนิเทศการศึกษา
7) งานด้านการวางแผนและกำหนดวิธีการดำเนินงาน
8) งานส่งเสริมการจัดประสบการณ์
9) งานประชุมอบรมทางวิชาการ
บทสรุป
ปัจจุบันนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2550) ไว้เป็น 4 ฝ่ายได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านงานบุคคล และด้านบริหารทั่วไป ซึ่งการบริหารงานวิชาการนับเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้สถานศึกษาบรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ผู้บริหารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีทักษะและความสามารถในการบริหารงานเพื่อให้สถานศึกษาบรรลุนโยบายและเป้าหมายของสถานศึกษา
เอกสารอ้างอิง
กมล ภู่ประเสริฐ. (2544). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : ทิปส์ พับบลิเคชั่น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู.พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
ราชกิจจานุเบกษา. (2550).กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัด
การศึกษา พุทธศักราช 2550. กรุงเทพฯ
นฤมล เนียมหอม, กันตวรรณ มีสมสาร และราศี ทองสวัสดิ์.(2555).การบริหารจัดการสถานศึกษา
ปฐมวัยหน่วยที่ 6-10.พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิ
ราช.
อมรชัย ตันติเมธ.(2550). การบริหารจัดการสถานศึกษาปฐมวัย. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน
ดุสิต.