ศิลปะบำบะดกับโรคซึมเศร้า

**ศิลปะบำบัดกับโรคซึมเศร้า**

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา สุทธิเนียม

อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาชีพครู ประธานสาขาจิตวิทยาการปรึกษา หลักสูตร วทม. คณะครุศาสตร์ มบส.

…………………………………………………………………………………..

 

ศิลปะ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและอารมย์ อีกทั้งแฝงไว้ด้วยปรัชญา ความเชื่อ และจุดมุ่งหมายที่ศิลปินต้องการแสดงออกถึงอารมณ์ของตน

ศิลปะบำบัด (Art Therapy)  เป็นวิธีการบำบัดอย่างหนึ่งที่ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการช่วยผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดของตนเองในรูปแบบที่ไม่ต้องใช้คำพูด ซึ่งกระบวนการสร้างสรรค์นี้จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองมากขึ้นและพัฒนาการปรับตัวในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นหรือเป็นกระบวนการบำบัดรักษาผ่านการใช้ศิลปะ โดยมุ่งเน้นการแสดงออกทางความคิดและอารมณ์ผ่านสื่อทางศิลปะ เช่น การวาดภาพ การปั้น การระบายสี ซึ่งช่วยให้บุคคลสามารถเข้าใจและแสดงออกในสิ่งที่อาจยากเกินไปจะสื่อสารออกมาเป็นคำพูด โดยเฉพาะในกรณีของโรคซึมเศร้า ซึ่งอารมณ์ที่ซับซ้อนและความเจ็บปวดทางใจมักถูกเก็บกดหรือหลีกเลี่ยงการพูดถึง

ศิลปะบำบัดมีความสำคัญในการช่วยลดความเครียด และส่งเสริมการสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสสำรวจตนเองโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับการวิเคราะห์ตนเองโดยตรง ผู้ป่วยสามารถแสดงความรู้สึกและสภาพจิตใจในรูปแบบที่ปลอดภัย การบำบัดด้วยศิลปะยังช่วยในการพัฒนาความมั่นใจในตนเอง เพิ่มทักษะการสื่อสาร และส่งเสริมการเรียนรู้วิธีการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการทำศิลปะบำบัดกับผู้ป่วยซึมเศร้า

1.การประเมินผู้ป่วย นักบำบัดจะประเมินอารมณ์ ความเครียด และสภาพจิตใจของผู้ป่วย เพื่อกำหนดแนวทางในการบำบัดที่เหมาะสม

2.การเลือกกิจกรรมศิลปะ นักบำบัดจะเลือกประเภทของกิจกรรมศิลปะที่เหมาะสมกับผู้ป่วย เช่น การวาดภาพ การปั้น หรือการระบายสี

3.การสร้างสรรค์งานศิลปะ ผู้ป่วยจะได้รับมอบหมายให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะตามที่ได้รับคำแนะนำจากนักบำบัด

4. การวิเคราะห์ผลงาน นักบำบัดและผู้ป่วยจะร่วมกันพูดคุยและวิเคราะห์ผลงานศิลปะ เพื่อค้นหาอารมณ์หรือความคิดที่ซ่อนอยู่

5. การติดตามผล นักบำบัดจะติดตามการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของผู้ป่วยและปรับแผนการบำบัดตามความจำเป็น

รูปแบบที่นิยมใช้ในศิลปะบำบัดกับผู้ป่วยซึมเศร้า

การวาดภาพ (Drawing)  ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแสดงความคิดและอารมณ์ออกมาในรูปแบบภาพได้

การระบายสี (Painting)  ช่วยผ่อนคลายจิตใจและสร้างสมาธิ

การปั้นดิน (Sculpting)  เป็นวิธีที่ช่วยในเรื่องการสัมผัสและการแสดงออกผ่านรูปทรง            

การทำงานฝีมือ (Crafting)  การสร้างสรรค์งานฝีมือช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความสำเร็จและการควบคุมในชีวิต

การแปลผลในศิลปะบำบัดนั้น นักบำบัดจะไม่มุ่งเน้นแค่ความสวยงามของงานศิลปะ แต่จะพิจารณาเนื้อหา สี รูปแบบ และกระบวนการสร้างสรรค์เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึก อารมณ์ และปัญหาที่ผู้ป่วยกำลังเผชิญ การแปลผลนี้จะต้องทำร่วมกับการสังเกตอารมณ์และการพูดคุยระหว่างนักบำบัดและผู้ป่วยซึมเศร้า

หลักการของศิลปะบำบัดที่ใช้ในการรักษาผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า:

1.การแสดงออกทางความรู้สึก การทำงานศิลปะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่บางครั้งยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด เช่น ความเศร้า ความกลัว หรือความเครียด การระบายออกผ่านศิลปะทำให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองมากขึ้น

2.การลดความเครียด การทำกิจกรรมศิลปะช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายจิตใจ การทำสิ่งที่สร้างสรรค์ยังช่วยกระตุ้นความสนใจและเพิ่มความรู้สึกมีคุณค่า

3.การสื่อสาร สำหรับบางคน การพูดถึงปัญหาของตนเองอาจเป็นเรื่องยาก แต่การใช้ศิลปะสามารถช่วยให้พวกเขาแสดงออกทางอ้อมผ่านงานสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บำบัดทำความเข้าใจความรู้สึกและสภาพจิตใจของผู้ป่วย

4.การเพิ่มความมั่นใจ การทำศิลปะช่วยสร้างความภูมิใจในตัวเอง ผู้ป่วยจะเห็นความสำเร็จจากการสร้างสรรค์งาน แม้จะเป็นเพียงผลงานเล็ก ๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองได้

สรุป

ศิลปะบำบัดเป็นวิธีการเยียวยาด้วยการนำเทคนิคทางศิลปะที่ทำให้ได้แสดงความรู้สึกและความคิดออกมา เพื่อช่วยให้คนได้ค้นหาและเปิดรับกับสภาวะอารมณ์ของตัวเอง, ดูแลจัดการความเครียด, ความเศร้า หรือทำความเข้าใจกับประสบการณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เป็นปัญหา

อ้างอิง

– Malchiodi, C. A. (2012). *The Handbook of Art Therapy*. Guilford Press.

– Rubin, J. A. (2016). *Approaches to Art Therapy: Theory and Technique*. Routledge.

– Gussak, D. (2009). *Art therapy with prison inmates: A pilot study*. *The Arts in Psychotherapy*, 36(1), 38-44.