ภาวะผู้นำโทรทัศน์รัฐสภา
ณิชาภา แก้วประดับ
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อการบริหารงานองค์กรของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ในประเด็น 7 ประเด็น ได้แก่ 1.มีความมั่นใจในตัวเอง 2.เป็นแบบอย่างแก่ลูกน้อง 3.สร้างความประทับใจในความสามารถและความสำเร็จ 4.มีเป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจน 5.มีความคาดหวังสูงและมีความมั่นใจว่าผู้ตามสามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย 6.สร้างแรงจูงใจในการทำให้พันธกิจบรรลุเป้าหมาย 7.มีบทบาทดึงดูดใจผู้ตาม ดังนี้
1.ทีวีรัฐสภา อุดมการณ์ต้องมาก่อน (มีเป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจน)
เป้าหมายชัด พันธกิจชัด ประชาสัมพันธ์รัฐสภาไทย
ภารกิจหลักของสถานีโทรทัศน์รัฐสภาคือการถ่ายทอดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมวุฒิสภา และการประชุมร่วมกันของรัฐสภา รวมถึงการเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ของรัฐสภา และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ได้รับงบประมาณจากรัฐสภาจึงต้องทำงานเพื่อตอบสนองภารกิจหลักของรัฐสภา
การบริหารงานสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงถือเป็นผู้นำที่สำคัญ เพราะต้องมีบทบาทในการบริหารจัดการ ภายใต้ปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ วัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กร บุคลากร สถานที่หรือเทคโนโลยี และงบประมาณ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายสูงสุดขององค์กร
มีข้อน่าสังเกตว่าเป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจนของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กรมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงเป็นไปในลักษณะยอมรับ เข้าใจในนโยบายขององค์กรอย่างแข็งขัน รองลงมาคือ 2)ด้านงบประมาณ เป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจนของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มีผลต่อการปฏิบัติงานตามนโยบาย ส่งผลให้การอนุมัติของบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่มีอุปสรรคจากสมาชิกรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงมิได้มีความกังวลกับการอนุมัติงบประมาณประจำปีจากรัฐสภาเลย เนื่องจากการทำงานของสถานีโทรทัศน์รัฐสภามีความใกล้ชิดกับสมาชิกรัฐสภาทั้ง 750 คนอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา ลำดับต่อมาคือ 3)ด้านบุคลากร เป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจนของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มีผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสถานีฯ ลำดับสุดท้ายคือ 4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยี เป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์อย่างชัดเจนของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะสมกับการทำงานด้านถ่ายทอดการประชุมรัฐสภา โดยการจัดซื้อกล้องติดผนังอัจฉริยะที่สามารถขยับกล้องและจับภาพไปตามสัญญาณไมโครโฟนในห้องประชุมรัฐสภาได้
2.ผู้นำมั่นใจ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล (ความมั่นใจในตัวเอง)
ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภามีความมั่นใจในการทำงานในระบบราชการ เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มีอายุในหน่วยงานราชการมากว่า 20 ปี ทำให้มีความเข้าอกเข้าใจในระบบราชการเป็นอย่างดี ประกอบกับมีประสบการณ์ในการทำงานด้านข่าวโทรทัศน์มานานกว่า 20 ปีเช่นเดียวกัน ทำให้มีความรู้ ความสามารถในการทำงานข่าวโทรทัศน์เป็นมืออาชีพ
ด้วยประสบการณ์ที่โดดเด่นทั้ง 2 ประการของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลให้มีความมั่นใจในการทำงานในสถานีโทรทัศน์รัฐสภาเป็นอย่างมาก เช่น ความสามารถในการตัดสินใจจัดระบบในการทำงาน การจัดสรรกำลังคน การประเมินผลงานของพนักงาน การจัดสรรงบประมาณ การคัดเลือกอุปกรณ์และเทคโนโลยีในการทำงาน ฯลฯ
มีข้อน่าสังเกตว่าความมั่นใจในตัวเองของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียง 2 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กรมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงเป็นไปในลักษณะยอมรับ เข้าใจในนโยบายขององค์กรอย่างแข็งขัน และมีความมั่นใจในการทำงานในหน่วยงานในกำกับของรัฐ แบบไม่มีข้อจำกัด รองลงมาคือ 2)ด้านบุคลากร ความมั่นใจในตัวเองของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสถานีฯ
อย่างไรก็ตามความมั่นใจในตัวเองของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
3.ต้นแบบดี ลูกน้องตาม ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น (เป็นแบบอย่างแก่ลูกน้อง)
ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภามีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านงานข่าว งานสื่อสารมวลชนกว่า 20 ปี จึงมีความสามารถในการทำงานข่าวได้อย่างหลากหลายหน้าที่ อาทิ บรรณาธิการฝ่ายข่าว เขียนข่าว ผู้ดำเนินรายการข่าว จึงสามารถทำงานข่าวได้อย่างมืออาชีพ และครบวงจร ขณะเดียวกันก็สามารถให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือพนักงานในสถานีโทรทัศน์รัฐสภา อาทิ ด้านการคิดประเด็นข่าว ด้านการเขียนข่าว ด้านการเป็นผู้ดำเนินรายการ ด้านการจัดผังรายการ ด้านการจัดตารางการทำงาน ฯลฯ ทำให้การทำงานข่าวของสถานีโทรทัศน์รัฐสภาราบรื่นและมีประสิทธิภาพตามพันธกิจของหน่วยงาน
มีข้อน่าสังเกตว่าการเป็นแบบอย่างแก่ลูกน้องของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียง 2 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กรมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงเป็นไปในลักษณะยอมรับ และปฏิบัติตาม โดยการทำงานในหลายหน้าที่ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รองลงมาคือ 2)ด้านบุคลากร การเป็นแบบอย่างแก่ลูกน้องของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้ยอมรับการทำงานหลายหน้าที่เหมือนผู้บริหารฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามการเป็นแบบอย่างแก่ลูกน้องของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
4.มนุษย์สัมพันธ์ดี (สร้างความประทับใจในความสามารถและความสำเร็จ)
ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานด้านข่าวอย่างมืออาชีพแล้ว ในด้านบุคลิกส่วนตัว ยังเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง สุภาพ ยิ้มง่าย พูดเพราะ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้พนักงานในสถานีฯ อยากเข้ามาขอคำปรึกษา และสนทนาด้วยทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้พนักงานเกิดความประทับใจในความสามารถของผู้บริหาร อันจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริหารและพนักงาน เป็นการลดช่องว่างในการทำงานร่วมกัน ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
มีข้อน่าสังเกตว่าการสร้างความประทับใจในความสามารถและความสำเร็จของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียง 2 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กรมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐสภา ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงเป็นไปในลักษณะยอมรับ และปฏิบัติตาม ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตามครรลองของสถานีโทรทัศน์ในกำกับของหน่วยงานรัฐ รองลงมาคือ 2)ด้านบุคลากร การสร้างความประทับใจในความสามารถและความสำเร็จของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้ปฏิบัติตามแนวทาง ตามแบบอย่างของผู้บริหารฯ เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในลักษณะเดียวกัน
อย่างไรก็ตามการสร้างความประทับใจในความสามารถและความสำเร็จของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
5.หมุนเวียนตำแหน่ง เรียนรู้งานถ้วนทั่ว (มีความคาดหวังสูงและมีความมั่นใจว่าผู้ตามสามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย)
ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาได้ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานของพนักงานภายในสถานีฯ โดยเฉพาะฝ่ายข่าว ฝ่ายผู้ประกาศข่าว ฝ่ายผู้สื่อข่าว ฝ่ายช่างภาพ ฝ่ายตัดต่อ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการหมุนเวียนการทำงานภายในหน่วยงานทั้งในด้านของการเป็นหัวหน้างาน และด้านความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เสมอ
ด้านการเป็นหัวหน้างาน เนื่องจากในฝ่ายต่างๆ ในสถานีโทรทัศน์รัฐสภา อาทิ ฝ่ายข่าว ฝ่ายผู้ประกาศข่าว ฝ่ายผู้สื่อข่าว ฝ่ายช่างภาพ ฝ่ายตัดต่อ จะไม่มีตำแหน่งหัวหน้างานที่ชัดเจน จึงไม่มีหัวหน้างานอย่างเป็นทางการ ดังนั้นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา จึงปรับระบบการทำงานให้พนักงานในแต่ละฝ่ายงานได้หมุนเวียนกันทำหน้าที่หัวหน้าฝายคนละ 3 เดือน เพื่อให้เรียนรู้หน้าที่และความรับผิดชอบในการเป็นหัวหน้างานสลับกันไป
ด้านความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เสมอ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาได้ปรับระบบการทำงานให้พนักงานในฝ่ายช่างภาพ และผู้สื่อข่าว ได้ทำงานร่วมกันทุกคนอย่างถ้วนหน้า โดยการจัดให้ช่างภาพสามารถทำงานกับผู้สื่อข่าวทุกคน ไม่มีช่างภาพประจำ หรือ “ช่างภาพคู่ใจ” เพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการทำงานร่วมกัน และเพื่อให้ทุกคนเห็นถึงศักยภาพการทำงานของพนักงานทุกคน ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในทีมข่าวมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มีข้อน่าสังเกตว่าความคาดหวังสูงและมีความมั่นใจว่าผู้ตามสามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียงด้านเดียว คือ 1)ด้านบุคลากร ความคาดหวังสูงและมีความมั่นใจว่าผู้ตามสามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ผู้บริหารฯ คาดหวัง และตั้งเป้าหมายให้พนักงานในแต่ละฝ่ายสามารถทำงานแทนกันได้ และสามารถสลับสับเปลี่ยนกันเป็นหัวหน้าฝ่ายได้
อย่างไรก็ตามความคาดหวังสูงและมีความมั่นใจว่าผู้ตามสามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 2)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กร 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
6.ยุติธรรม นำประเมิน (สร้างแรงจูงใจในการทำให้พันธกิจบรรลุเป้าหมาย)
สถานีโทรทัศน์รัฐสภาเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐสภา ระบบการทำงานเป็นระบบราชการ แต่เนื่องจากการทำงานของสถานีโทรทัศน์ เป็นงานด้านสื่อสารมวลชน ที่เน้นการทำงานกระชับ ฉับไว และคล่องตัว ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภาจึงได้ปรับเปลี่ยนระบบการประเมินผลงานของพนักงานในองค์กรจากเดิมที่เป็นการประเมินปีละ 1 ครั้ง เป็นการประเมินผลการทำงานทุก 1 เดือน และมีการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดส่งผลงานของพนักงานได้อย่างสะดวกและเป็นระบบ ขณะที่ผู้บริหารสถานีฯ เองก็สามารถตรวจสอบผลงานของพนักงานได้อย่างเป็นระบบ และตรวจสอบได้ตลอดเวลา ส่งผลให้การประเมินผลงานมีความน่าเชื่อถือ เพราะทั้งพนักงานและผู้บริหารสถานีฯ สามารถแจงนับผลงานได้อย่างชัดเจน ไม่เกิดปัญหาการประเมินแบบลักษณะ “เลือกที่รัก มักที่ชัง”
มีข้อน่าสังเกตว่าการสร้างแรงจูงใจในการทำให้พันธกิจบรรลุเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียงด้านเดียว คือ 1)ด้านบุคลากร การสร้างแรงจูงใจในการทำให้พันธกิจบรรลุเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ผู้บริหารฯ คาดหวัง โดยการกำหนดให้พนักงานส่งภาระงานและผลงานให้ผู้บริหารฯ ประเมินผลทุก 1 เดือน ซึ่งเป็นการประเมินผ่านระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการผลิตผลงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการสร้างแรงจูงใจในการทำให้พันธกิจบรรลุเป้าหมายของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 2)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กร 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
7.ทัศนคติดี ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ (มีบทบาทดึงดูดใจผู้ตาม)
ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภามีจิตวิทยาในการเป็นผู้นำที่สามารถดึงดูดใจพนักงานในองค์กรได้เป็นอย่างดี ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่มีทัศนคติที่ดี ใจกว้าง มีความเข้าอกเข้าใจคน ทำให้เมื่อผู้บริหารต้องการที่จะปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน และระบบในการประเมินผลงาน จึงทำให้พนักงานในองค์กรยอมทำตามได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีเงื่อนไข
มีข้อน่าสังเกตว่าการมีบทบาทดึงดูดใจผู้ตามของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ส่งผลต่อการบริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพียงด้านเดียว คือ 1)ด้านบุคลากร การมีบทบาทดึงดูดใจผู้ตามของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เช่น การที่ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภามีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานในสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ทั้งในเรื่องของนโยบาย ภารกิจขององค์กร บทบาทการทำงานที่ทุ่มเทของผู้บริหารฯ ส่งผลต่อการปฎิบัติงานของบุคลากรในสถานีฯ ซึมซับและปฏิบัติงานตามแนวทางเดียวกับผู้บริหารฯ ทั้งด้านทัศนคติ นโยบาย ภารกิจ และการทุ่มเทกับการทำงาน
คาดหวัง โดยการกำหนดให้พนักงานส่งภาระงานและผลงานให้ผู้บริหารฯ ประเมินผลทุก 1 เดือน ซึ่งเป็นการประเมินผ่านระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการผลิตผลงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการมีบทบาทดึงดูดใจผู้ตามของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา มิได้ส่งผลต่อ 2)ด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบายองค์กร 3)ด้านงบประมาณ และ4)ด้านสถานที่หรือเทคโนโลยีเลย
รายการอ้างอิง
ภาษาไทย
ชมพูนุช ภัทรขจี. (2550). การรายงานข่าวการเมืองทางโทรทัศน์. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ชวลิต ประภวานนท์. (2542). องค์การและการจัดการ ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์.
ชัยธวัช เนียมศิริ. (2561). ภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพในยุค Thailand 4.0 : กรณีศึกษา จังหวัดขอนแก่น.
กรุงเทพมหานคร : วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร.
ณัฐาศิริ สุขภาพ. (2551). การบริหารการจัดการสถานีโทรทัศน์รัฐสภาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ของประชาชน. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ธงชัย สันติวงศ์. (2540). พฤติกรรมผู้บริโภคทางการตลาด. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช.
เบญจวรรณ จำเริญพร . (2552). การศึกษาและวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาผ่าน
ดาวเทียม. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พรจิต สมบัติพานิช. (2550). โฆษณาในทศวรรษที่ 2000-2010: การศึกษาถึงปัจจัยด้านสื่อที่มีต่อรูปแบบโฆษณา.
วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา.
เพียงพิศ จิระพรพงศ์. (2550). กระบวนการบริหารจัดการการจัดทำสัญลักษณ์เพื่อการคัดกรองรายการ
โทรทัศน์. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วรรณรัตน์ นาที. (2545). กระบวนการรายงานสดของข่าวโทรทัศน์ไทย. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
สมคิด บางโม. (2539). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ดี.
อริสา แดงเอียด. (2552). การบริหารเพื่อการพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาผ่านดาวเทียม. รายงานโครงการ
เฉพาะบุคคล ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพมหานคร.
ภาษาอังกฤษ
Albarran, A.B. (2006). Management of electronic media. Wadsworth: Thomson.