“นักจัดการฝึกอบรม” งานที่หลายคนอาจมองว่าเป็นงานง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วอาจมีหลายสิ่งที่คนที่จะเข้ามาทำงานนี้ไม่ทราบ หน้าที่ความรับผิดชอบของนักจัดการฝึกอบรมมีหลายประการ ทั้งเชิงวิชาการ ทักษะ และคุณลักษณะส่วนตัวที่จำเป็น
ในองค์การ เรื่องการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรนั้น เป็นความรับผิดชอบของบุคคลหลายฝ่าย (กุลชลี พวงเพ็ชร์, 2560) เช่น
1) ผู้บริหารระดับสูง ทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายด้านการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร
2) ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ทำหน้าที่โดยตรงในการรับนโยบายจากผู้บริหารระดับสูงมาดำเนินการ
3) หัวหน้างาน มีหน้าที่นำโปรแกรมการฝึกอบรมไปปฏิบัติและสนับสนุนให้ลูกน้องเข้ารับการฝึกอบรม
4) พนักงาน มีหน้าที่ให้ความร่วมมือในการเรียนรู้ตามโปรแกรมหรือหลักสูตรที่หน่วยงานจัดขึ้น
ภาระหน้าที่ของนักจัดการฝึกอบรม
ในส่วนของภาระหน้าที่ของนักจัดการฝึกอบรม ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องดูแลรับผิดชอบการจัดการฝึกอบรมขององค์การโดยตรง มีภาระหน้าที่หลายประการด้วยกัน (Pinto and Walker, 1978) คือ
1. ทำการวิเคราะห์ความต้องการในการฝึกอบรม โดยอาจใช้แบบสำรวจ หรือ การสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์ความต้องการในการฝึกอบรมของพนักงาน
2. กำหนดแนวทางการฝึกอบรมคนในองค์การที่เหมาะสม โดยการประเมินประสิทธิภาพของวิธีการฝึกอบรมแบบต่าง ๆ เช่น การใช้โปรแกรมการเรียนด้วยตนเอง วีดิทัศน์ การฝึกอบรมที่เน้นกระบวนการกลุ่ม ฯลฯ
3. การออกแบบและพัฒนาโครงการฝึกอบรม ได้แก่ การออกแบบโครงสร้างและเนื้อหาของหลักสูตรการฝึกอบรม การกำหนดวัตถุประสงค์การฝึกอบรม การประเมินผล การเลือกเทคนิคการฝึกอบรมที่เหมาะสม
4. การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรม ได้แก่ การจัดทำคู่มือ เอกสารประกอบการฝึกอบรม วัสดุประกอบการฝึกอบรม หรือการหาอุปกรณ์สำหรับการทำกิจกรรมกลุ่มย่อย
5. การจัดหาและประเมินคุณภาพของวิทยากรภายในองค์กร รวมทั้งฝึกอบรมผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นวิทยากรในอนาคตขององค์กร
6. การจัดหาและประเมินคุณภาพของวิทยากรภายนอกองค์กร ซึ่งเป็นผู้ที่องค์กรว่าจ้างหรือเชิญมาเป็นวิทยากร หรือที่ปรึกษาของการฝึกอบรม
7. การบริหารจัดการงานด้านธุรการของหน่วยงาน เช่น การจัดทำงบประมาณ การจัดระบบการทำงาน การจัดเจ้าหน้าที่ประจำโครงการฝึกอบรม การเสนอแผนการฝึกอบรม ฯลฯ
8. การวางแผนและให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากร เช่น การให้คำปรึกษาแก่พนักงานเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอาชีพ การทำบันทึกการเข้าร่วมฝึกอบรมของพนักงาน
9. การช่วยเหลือการฝึกอบรมในงาน ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือผู้จัดการ หรือหัวหน้างาน ที่ทำการฝึกอบรมลูกน้องในการปฏิบัติงานจริง การพิจารณาปัญหาของการปฏิบัติงานของพนักงาน การวิเคราะห์ความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน
10. การช่วยเหลือการฝึกอบรมในห้องสัมมนา/อบรม เช่น การควบคุมโสตทัศนูปกรณ์ การนำอภิปราย การช่วยเหลือการดำเนินการกิจกรรมกลุ่ม ฯลฯ
11. การวิจัยค้นคว้าสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม เช่น การออกแบบวิธีการวิจัยและวิธีรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการฝึกอบรม การประมวลผลข้อมูลการประเมินผลการฝึกอบรม การแปลผล การนำเสนอข้อมูลทางสถิติ การจัดทำรายงานผลการฝึกอบรม
12. การเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเอง โดยการเข้าร่วมอบรม สัมมนา หรือประชุมทางวิชาการด้านทรัพยากรมนุษย์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการฝึกอบรม
13. การรักษาสัมพันธภาพในการทำงานกับบุคคลฝ่ายต่าง ๆ เช่น ผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กร หัวหน้างานแผนกต่าง ๆ โดยร่วมให้ความคิดเห็น ให้คำปรึกษาหารือเกี่ยวกับการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานแต่ละแผนก/ฝ่าย
14. มีส่วนร่วมในการพัฒนากลุ่มและองค์กร เช่น การประยุกต์เทคนิคการพัฒนาทีมงาน การประชุมกลุ่ม การแสดงบทบาทสมมติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของกลุ่มและองค์กร
บทสรุป
งานที่ดูเหมือนง่ายอย่างนักจัดการฝึกอบรม หากพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่าต้องอาศัยความรู้ทั้งในเชิงวิชาการ ทักษะหลายๆ ด้าน และยังควรต้องเป็นคนที่มีคุณลักษณะส่วนตัวที่จำเป็นต่อการทำงานนี้อีกด้วย ผู้ที่สนใจทำงานเป็นนักจัดการฝึกอบรม จึงควรพิจารณาคุณสมบัติของตนเอง และเตรียมความพร้อมเพื่อการประกอบอาชีพนี้ในอนาคต
อ้างอิง
กุลชลี พวงเพ็ชร์. (2560). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). สิงห์บุรี: โรงพิมพ์บุญยไพศาล
เจริญ.
Pinto, Patrick R. and Walker, James W. (1978). What Do Training and Development Professionals Really Do?. Training and Development Journal. 32, 7, 58-64, Jul 78.
อาจารย์ประจำสาวิชาการจัดการธุรกิจและทรัพยากรมนุษย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
Bansomdejchaopraya Rajabhat University